Friday, 17 May 2024

วิธีการ กำหนดและคำนวณ ขนาดของเครื่องปรับอากาศ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ในงานออกแบบ

Update 08/06/19

“เครื่องปรับอากาศ” นั้นมีอยู่หลาย ระบบและขนาด วิธีการกำหนดและเลือกใช้นั้นขึ้นอยู่กับ ประเภทของการใช้และขนาดของพื้นที่เป็นสำคัญ

เบื้องต้นจะขออธิบาย เฉพาะเรื่อง. การกำหนดและคำนวณ ขนาดของ “เครื่องหรือระบบปรับอากาศ” ให้เหมาะสมขนาดของพื้นที่ที่เราต้องการปรับอากาศ(เรื่องของระบบและประเภทจะอธิบายอีกครั้ง) โดยมีประเด็นที่ต้องเข้าใจดังนี้

  1. ค่า BTU หรือ หน่วยวัดปริมาณความร้อน
    2.ค่าสัมประสิทธิ์ในการคำนวณ
    3.วิธีคำนวณขนาดเครื่องปรับอากาศอย่างง่าย
  2. ค่า BTU หรือ หน่วยวัดปริมาณความร้อน

BTU (British Thermal Unit) คือ หน่วยที่ใช้วัดปริมาณความร้อนหน่วยหนึ่ง (หน่วยกำหนดเรื่อง เครื่องปรับอากาศ)
ความหมายคือ 1 BTU คือปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 ปอนด์มีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1 องศาฟาเรนไฮด์ เป็น การวัดกำลังความเย็นหรือความสามารถในการดึงความร้อน (ถ่ายเทความร้อน) ออกจากห้องปรับอากาศในหน่วยบีทียู (BTU)
เช่น แอร์ขนาด 10,000 BTU/Hr. หมายความว่าแอร์เครื่องนั้นมีความสามารถในการดึงความร้อนออกจาก ห้องปรับอากาศ 10,000 บีทียูภายในเวลา 1 ชั่วโมง
การเลือก BTU ให้พอเหมาะสมกับขนาดพื้นที่
– ถ้าเลือก BTU สูงไป คอมเพรสเซอร์จะทำงานไม่สม่ำเสมอ ทำให้ประสิทธิ์ภาพเครื่องลดลง(เหมือนไฟเปิดปิดบ่อย) ทำให้ความชื้นในห้องสูง อูณหภูมิไม่คงที่ และ สิ้นเปลื้องพลังงานในการเปิดปิด
– ถ้าเลือก BTU ต่ำไป คอมเพรสเซอร์จะทำงานตลอดเวลา เพราะความเย็นห้องไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ต้องการ(ไม่เย็น) และสิ้นเปลื้องพลังงานทำงานตลอดเวลา และ เครื่องเสื่อมสภาพเร็ว

2.ค่าสัมประสิทธิ์ในการคำนวณ

การคำนวณขนาดเครื่องปรับอากาศ จำเป็นต้องรู้ ประเภทของการใช้งานในห้องนั้น ซึ่งเป็นตัวแปร(Factor) เบื้องต้นทางงานวิศวกรรมงานระบบ จึงกำหนด ค่าสัมประสิทธิ์ ของประเภทการใช้งานในแต่ละประเภทการใช้งาน เพื่อนำมาใช้ คำนวณขนาด ใน สูตรการคำนวณอย่างง่ายดังนี้
ค่าสัมประสิทธิ์(Factor)

  • 750 ห้องนอน – ไม่โดนแดด
  • 800 ห้องนอน – โดนแดด
  • 850 ห้องทั่วไป – ไม่โดนแดด
  • 900 ห้องทั่วไป – โดนแดด
  • 950 – 1,100 ร้านอาหาร ร้านทำผม มินิมาร์ท ร้านค้า สำนักงาน – ไม่โดนแดด
  • 1,000 – 1,200 ร้านอาหาร ร้านทำผม มินิมาร์ท ร้านค้า สำนักงาน -โดนแดด

3.วิธีคำนวณขนาดเครื่องปรับอากาศอย่างง่าย

มีวิธีการคำนวณด้วยกันสองรูปแบบดังนี้

รูปแบบที่ 1 การคำนวณโดยใช้พื้นที่ห้อง (กรณีความสูงฝ้าเพดาน 2.30-2.70 เมตร.)
BTU = [กว้าง(เมตร) x ยาว(เมตร)] x ค่าสัมประสิทธิ์
ตัวอย่างการคำนวณ
ห้องนอน ไม่โดนแดด กว้าง 5.5 เมตร, ยาว 6 เมตร
BTU = [5.5 m. x 6 m.] x 700
= 33 sq.m x 700
= 23,100
ดังนั้นควรกำหนดเครื่องปรับอากาศ ให้มีขนาด 24,000 BTU (+- ไม่เกิน 1,000 – 1,500 BTU)

รูปแบบที่ 2 การคำนวณโดยใช้ปริมาตรห้อง (กรณีความสูงฝ้าเพดานมากกว่า 3 เมตร.)
BTU = [[กว้าง(เมตร) x ยาว(เมตร) x สูง(เมตร)] x ค่าสัมประสิทธิ์] / 3
ตัวอย่างการคำนวณ
ห้องนั่งเล่น โดนแดด กว้าง 4 เมตร, ยาว 8 เมตร, สูง 3.5 เมตร
BTU = [[4 m. x 8.5 m. x 3.5 m. ] x 900] / 3
= [112 sq.m x 900] / 3
= 107,100 / 3
= 35,700
ดังนั้นควรกำหนดเครื่องปรับอากาศ ให้มีขนาด 36,000 BTU (+- ไม่เกิน 1,000 – 1,500 BTU)

ข้อพิจารณาเพิ่มเติม

  • ตำแหน่งของห้องรับแดด
  • ระบบกันความร้อน
  • ความสูงของพื้นที่
  • การเชื่อมต่อกับพื้นที่ทั้งบนและล่าง
  • ขนาดของหน้าต่างหรือช่องเปิด
  • ความถี่ในการเปิด/ปิดประตู เข้า/ออก
  • จำนวนคนในห้อง(ปัจจัยการคายความร้อน)
  • จำนวนอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น คอมพิวเตอร์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาอบ
  • กรณีที่ประเภทการใช้งานซับซ้อนจำเป็นต้องใช้ระบบที่ซับซ้อนกว่านี้